ตัวเลขที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่างไป

The Number That Changed Everything

ตำนานยีนส์ที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ตั้งแต่เมื่อ 149 ปีก่อนที่กางเกงยีนส์ยังคงเป็นเพียงเครื่องแบบเพื่อการทำงาน สู่การกลายเป็นไอคอนของเครื่องแต่งกายตลอดกาลมาจนปัจจุบัน และเพื่อเฉลิมฉลองความเป็นตำนาน ในฤดูกาลนี้ เราได้ร่วมมือกับเหล่านักคิดหน้าใหม่ทั้ง 5 ที่รวบรวมจิตวิญญาณของ 501® Jeans โดยใช้แนวคิดการสร้างสรรค์ผลงานจากความเคารพในยีนส์อย่างแท้จริง

ไอเท็มคู่ใจที่ต้องมีติดไว้อย่าง กางเกงยีนส์ ถูกซ่อนด้วยเรื่องเล่าผ่านสไตล์อันเรียบง่ายที่เริ่มต้นจากหนึ่งตัวเลขพิเศษ พร้อมคำตอบที่ว่า ทำไม “501®” จึงยังคงได้รับเลือกเป็นคู่ใจ และเรายังคงยืนยันว่าตัวเลขนั้นเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง ทุกอย่างเกิดขึ้นจากการร่วมมือครั้งแรกระหว่าง Levi Strauss พ่อค้าส่งในซานฟรานซิสโก และ Jacob Davis ช่างตัดเสื้อจากเนวาดา ทั้งคู่เชื่อมแนวคิดเพื่อปฏิวัติวงการกางเกงเข้าหากัน ด้วยความตั้งใจที่อยากสร้างสินค้าที่ทนทานเหนือกาลเวลา ทั้งคู่จึงสร้างต้นแบบของกางเกงยีนส์ทั้งหมด และได้จดสิทธิบัตรกระบวนการนี้เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2416—นี่คือจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ยีนส์ ที่เป็นไอคอนระดับตำนานอย่าง Levi’s® 501® Jeans

ดีไซน์กระเป๋าห้าช่องสุดโดดเด่นของกางเกงผ้าเดนิมในตำนานนี้ มาพร้อมทรงพอดีตัวและกระดุมโลหะ อันสื่อถึงความนอกกรอบ ความเท่ที่ทุกเพศทุกวัยจะสัมผัสเมื่อได้ลอง นี่คือเครื่องแต่งกายที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับการสวมใส่ภายใต้กฎเกณฑ์ สู่การกลายเป็นเสื้อผ้าที่ตั้งแต่ป๊อปสตาร์ ขาร็อก นักการเมือง หรือไม่ว่าใครก็สามารถหยิบมาสร้างสไตล์ได้ทั้งนั้น—ราวกับผืนผ้าใบเปล่าที่พร้อมรองรับการปลดปล่อยความสร้างสรรค์ของคุณ ไม่ว่าคุณ *เพิ่ง* จะเพิ่มลงในรถเข็น หรือหยิบมันมาจากร้านมือสองก็เข้ากันได้ทั้งนั้น เพราะ 501® Jeans ได้สืบทอดความเป็นเอกลักษณ์จากอดีต มาสู่ปัจจุบัน ไปจนถึงอนาคต เราบอกแล้วใช่ไหมล่ะ ว่านี่คือสไตล์ที่เหนือกาลเวลาอย่างแท้จริง?

ตั้งแต่นักสร้างสรรค์ นักเคลื่อนไหว และผู้คลั่งไคล้ในสไตล์ ไปจนถึงผู้เชี่ยวชาญทางเสียงเพลง มาหาคำตอบกันว่าทำไมกลุ่มคนมากวิสัยทัศน์เหล่านี้ จึงอยากฉีกกรอบและส่งต่อแนวคิดผ่านความเป็น 501® Jeans

Marcus Rashford นักฟุตบอลชื่อดัง เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะกองหน้าจาก Manchester United แต่ในอีกบทบาทนั้น Marcus เป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อเยาวชน โดยนักเล่นผู้เจนสนามคนนี้ มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เขาเป็นผู้ออกมาเรียกร้องถึงการขาดแคลนอาหารในชุมชนของเขา อีกทั้งยังให้ความสำคัญต่อการศึกษาของเด็กๆ ผ่านทาง Marcus Rashford Book Club ความตั้งใจของเขาสำเร็จไปไกลกว่าความสามารถในผืนสนาม ในฐานะทูตแห่ง FareShare โครงการที่จัดตั้งขึ้นเพื่อบริจาคอาหาร Marcus ได้ช่วยระดมเงินบริจาคมาเพียงพอต่อการมอบอาหาร 21 ล้านมื้อให้กับเด็กๆ และครอบครัวผู้ต้องการความช่วยเหลือ เขากลายเป็นบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงการปกครองในวันนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าเยาวชน 1.7 ล้านคนผู้ขาดแคลน ทุกคนจะได้ทานอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต

“เมื่อบางสิ่งต้องการเปลี่ยน และมีโอกาสแม้เล็กน้อยที่คุณสามารถทำได้เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง คุณต้องคว้าโอกาสนั้นไว้ทันที”

—Marcus Rashford

Peggy Gou ดีเจ โปรดิวเซอร์ และนักแต่งเพลงแห่งกรุงเบอร์ลิน เธอเป็นชาวเกาหลีที่ได้กำหนดยุคใหม่ของดนตรีเฮาส์ อันได้แรงบันดาลใจมาจากดนตรีคลาสสิกที่ถูกตีความใหม่ในแนวคิดจากอนาคต แม้ว่าวันนี้ เธอคือดีเจชื่อดังในระดับสากล แต่จุดเริ่มต้นของ Peggy นั้น เริ่มต้นจากงานด้านแฟชั่นที่ “Harper’s Bazaar” ประเทศเกาหลี แต่หลังจากได้ค้นพบว่าแท้จริงแล้วเธอนั้นหลงใหลในด้านดนตรี Peggy จึงเริ่มหันมาให้เวลาอย่างเต็มที่กับมัน "มันเหมือนกับคุณยื่นกล่อง LEGO® ให้กับเด็กๆ" Peggy อธิบายถึงจุดเปลี่ยนนั้น "มันเป็นความตื่นเต้นแบบแท้จริง และฉันจำได้ว่าฉันแทบไม่นอนเลยในช่วงแรก" ทุกวันนี้ คุณจะพบกับ Peggy ได้ในพาดหัวข่าวเกี่ยวกับเทศกาลดนตรีใหญ่ๆ หรือหากคุณอยากจะลองสัมผัสบทเพลงอันทรงเสน่ห์จากเธออย่าง “Starry Night” ก็ย่อมได้

คงไม่มีใครไม่รู้จัก Hailey Bieber ไม่ว่าจะในบทบาทนางแบบ นักธุรกิจ เจ้าของใบหน้าบนนิตยสารและแคมเปญมากมาย รวมทั้งเป็นหนึ่งในชื่อของคู่รักที่ถูกค้นหามากที่สุดบน Google และอีกหนึ่งบทบาทล่าสุดในการเป็น YouTuber โดยช่องของเธอนั้นเพิ่งเปิดตัวสดๆ ร้อนๆ เมื่อฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา และได้รับจำนวนผู้ติดตามเป็นจำนวนมากหลังเริ่มทำรายการ “Who’s in My Bathroom?” โดยแขกรับเชิญแต่ละคนนั้นอยู่ในระดับต้นๆ ที่ได้มาร่วมกันทานอาหารว่างมื้อใหญ่ในสถานที่ตามชื่อของรายการ ใช่ "ห้องน้ำ" ที่กว้างขวางราวกับสปาของเธอนั่นเอง— "ฉันได้แรงบันดาลใจสำหรับการเริ่มต้นช่อง YouTube มาจากการที่ฉันคิดว่าผู้คนนั้นไม่ได้รู้จักตัวตนของฉันจริงๆ" Hailey อธิบาย "ฉันรู้สึกว่าการทำแบบนี้ มันทำให้ผู้คนมองว่า ฉันเองก็เป็นคนทั่วๆ ไป แทนที่จะเป็นใครก็ตามที่พวกเขาคิดกันไปเอง"

“ฉันได้รับแรงบันดําลใจมําจํากทุกสิ่งที่ฉันรักผ่ํานตําคู่นี้และฉันจึงเก็บสะสมสิ่งเหล่ํานั้นไว้เพื่อกลํายมําเป็นตัวฉันในวันนี้”

—Peggy Gou

<

ความกล้าหาญและพรสวรรค์ของนักแสดงสาวอย่าง Barbie Ferreira นั้นสร้างชื่อเสียงให้เธอตั้งแต่วันแรกของการย้ายไปนิวยอร์กในอายุเพียง 18 ปี "ฉันคิดว่าช่วงเวลาที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปสำหรับฉัน คือเมื่อตอนที่ย้ายออกมาจากบ้านของแม่" เธอเล่า "ฉันได้รับเงินเดือนก้อนแรกจากการเป็นนางแบบ—ฉันคิดว่ามันเพียงพอแค่ค่าเช่าเดือนเดียว—แต่ฉันก็แบบว่า 'เอาล่ะ มาลุยเถอะ!'" Barbie ผู้พิสูจน์ความสำเร็จให้ตนเองอย่างไม่หยุดยั้ง ช่างเป็นช่วงเวลาและโอกาสที่เหมาะเจาะ เธอได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในแคมเปญ Aerie ที่กลายไปเป็นไวรัล แต่เธอก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะเติมเต็มความฝันในการเป็นนักแสดง จึงไม่น่าแปลกใจที่ต่อมา Barbie ได้ถูกคัดเลือกในบทบาทที่เธอฝัน เธอจึงลาออกจากการเป็นนางแบบและย้ายไปที่ลอสแอนเจลิสเพื่อทำงานด้านการแสดงแบบเต็มเวลา

A$AP Nast ดีไซเนอร์ ศิลปิน นายแบบ และสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งวงอเมริกันฮิปฮอปในตำนานอย่าง A$AP Mob คุณจะเพิ่มตำแหน่งผู้สร้างรสนิยมดีๆ ไว้ในผลงานของเขาด้วยก็ย่อมได้ Nast คือผู้เชี่ยวชาญในการแร็ปแบบฟรีสไตล์ โดยเดิมทีนั้นเขาเล่นดนตรีเป็นงานอดิเรก ซึ่งภายหลังเขาได้ทุ่มเทเวลาไปกับการแต่งตัวเสื้อผ้าผู้ชายมากกว่า หลังการเปิดตัวบนรันเวย์ครั้งแรกของ Virgil Abloh ในนาม Louis Vuitton อันเป็นการประกาศตัวตนว่าเป็น "ผู้แต่งกายแบบแหกคอก" และนำไปสู่การร่วมงานโดยใช้มุมมองการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาให้กับแบรนด์ Nast นั้นไม่ต้องพึ่งสไตลิสต์เพื่อสร้างตัวตนของเขา ("ผมคิดเองทำเอง ได้น่า!") เพราะเขานั้นมีหลักการการฝึกฝนเพื่อการแต่งตัวด้วยตนเอง "ผมจะมีวันที่ใช้ฝึกแบบจริงจังว่าผมจะใส่อะไร ผมจะอยู่ในบ้านแล้วลองเสื้อผ้าต่างๆ หลายชั่วโมง แล้วยิ่งฝึกก็จะยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ"